
วิธีการปักหมุดใน Google Map: เคล็ดลับเสริมยอดขายหน้าร้านและออนไลน์สำหรับเจ้าของธุรกิจยุคใหม่
เคยสงสัยไหมว่าทำไมร้านค้าเล็กๆ หลายแห่ง แม้จะอยู่ในซอยลึกหรือมีหน้าร้านเดียว แต่กลับมีลูกค้าหนาแน่นต่อเนื่อง? หนึ่งในกลยุทธ์ที่ SME เติบโตไวทันใจ คือ การปักหมุดใน Google Map ให้ค้นหา-แชร์ตำแหน่งร้านง่าย ลูกค้าหาเจอไว ลงโฆษณาก็ปัง ที่สำคัญยังเชื่อมต่อกลยุทธ์ Omnichannel ได้อย่างลงตัว
บทความนี้จะพาคุณ เจ้าของร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้าปลีก หรือรายย่อยในไทย มารู้วิธีปักหมุดบน Google Map อย่างมือโปร และต่อยอดสร้างประโยชน์ทางธุรกิจจริง ตั้งแต่ลูกค้ามาหาคุณถูกที่ ไม่หลงทาง ไปจนถึงการวางกลยุทธ์ขยายช่องทางขายแบบ Multi-Channel และ Omnichannel ครบจบ อ่านจบพร้อมลงมือทำและเห็นผลลัพธ์ชัด!
What You’ll Learn
- ความสำคัญและประโยชน์ของการปักหมุดบน Google Map
- ขั้นตอนพื้นฐานในการเพิ่มจุดตำแหน่งและสร้างแผนที่
- การจัดการเส้นทางและปรับแต่งหมุดในแผนที่
- การแชร์แผนที่และกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง
- ตัวอย่างการประยุกต์ใช้การปักหมุดสำหรับธุรกิจ
- บทสรุปและขั้นตอนลงมือทำทันที
ความสำคัญและประโยชน์ของการปักหมุดบน Google Map สำหรับ SME ในไทย
หากคุณเป็นเจ้าของร้านค้าปลีกหรือร้านอาหารในยุคที่ลูกค้าค้นหาร้านจากมือถือทุกที การปักหมุดบน Google Map ไม่ใช่เรื่องเล่นอีกต่อไป มันคือบทพิสูจน์ความเป็นมืออาชีพและเป็นบันไดชั้นแรกสู่ยอดขายที่เติบโตแบบจับต้องได้
- ลูกค้าหาเจอง่าย ไม่หลง ไม่เสียโอกาสขาย: เลือกกดเส้นทางจากมือถือแล้วถึงหน้าร้านแบบไม่ต้องโทรถามซ้ำ หมดยุคลูกค้าหลงซอยแล้วล้มเลิกการซื้อ
- สร้างความน่าเชื่อถือบนโลกออนไลน์: ร้านที่มีหมุด Google Map และภาพจริง มีรีวิวลูกค้า จะดูน่าเชื่อถือกว่าคู่แข่ง เพิ่มโอกาสรับลูกค้าจาก Google Search, Facebook Location หรือ LINE Official
- รองรับช่องทาง Omnichannel/Multi-channel: เชื่อมต่อช่องทางขายทั่วทุกแพลตฟอร์ม (Shopee, Facebook, LINE, GrabFood) ด้วยลิงก์แผนที่ แชร์กับลูกค้าหรือพนักงานใหม่ เพียงคลิกเดียว
- จัดการข้อมูลโลจิสติกส์-ส่งของไวขึ้น: ใช้หมุดแผนที่คุมเส้นทางทีมรถเดลิเวอรี่ ลดเวลา เสียค่าใช้จ่ายน้อยลง
- เพิ่มประสบการณ์ลูกค้า เพิ่มยอดซื้อซ้ำ: ลูกค้าเซฟตำแหน่งร้านไว้ในแอป Google Map เผื่อมาใหม่ ซื้อซ้ำ ทำให้สร้างฐานลูกค้าประจำได้ง่าย
- วางตำแหน่ง Home/Work ในแอป Google Maps: เจ้าของธุรกิจและทีมงานก็ประหยัดเวลา เรียกดูหรือแชร์เส้นทางได้ง่ายขึ้น (อ้างอิง YouTube)
ทั้งหมดนี้คือวิธี “ขยายร้าน” โดยไม่ต้องลงทุนเปิดสาขา แค่เปิดให้ลูกค้าหาคุณเจอง่ายกว่าคู่แข่ง!

ขั้นตอนพื้นฐาน: วิธีปักหมุด เพิ่มตำแหน่ง และสร้างแผนที่ใน Google Map
มาดูขั้นตอนจริงที่ เจ้าของร้านและแอดมินมือใหม่ สามารถทำได้ทันทีเอง ไม่ต้องอาศัยฝ่ายไอที
1. เตรียมความพร้อมและเข้า Google Map
- เปิด Google Map บนเบราว์เซอร์ หรือแอปมือถือ
- ล็อกอินด้วยบัญชี Gmail ธุรกิจหรือบัญชีเจ้าของร้าน เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล
2. เข้าเมนู ‘สถานที่ของคุณ’ และ ‘แผนที่’
- คลิกแถบเมนูซ้ายมือ เลือก “สถานที่ของคุณ”
- เลือก “แผนที่” และคลิก “สร้างแผนที่”
3. ค้นหาหรือระบุจุดที่ต้องการปักหมุด
- ค้นหาชื่อสถานที่ (เช่น “ร้านกาแฟสาขาเครือ StoreHub สาทร”)
- ถ้าสถานที่ไม่แสดงใน Google Map ให้คลิก “เพิ่มเครื่องหมายสถานที่” แล้วเลื่อนหมุดไปยังจุดที่ต้องการ
- ระบบจะแสดงพิกัดพิเศษซึ่งนำไปใช้ร่วมกับ GPS/เดลิเวอรี่จัดเส้นทางส่งสินค้าได้
4. จัดการชื่อแผนที่และเลเยอร์
- คลิก “ตั้งชื่อแผนที่” และ “ตั้งชื่อเลเยอร์” เพื่อแบ่งตามประเภท เช่น “จุดรับส่งสินค้า”, “สาขา”, “สถานที่จัดอีเวนต์”
- การบริหารข้อมูลที่มีการจัดเลเยอร์จะช่วยให้ทำงานได้เร็วกว่า 30% (ยืนยันในคู่มือ RMUTT)
แค่ 4 ขั้นตอนนี้ ร้านค้าปลีกหรือร้านอาหารของคุณก็พร้อมโชว์ตัวบนแผนที่ระดับชาติ!
การจัดการเส้นทางและปรับแต่งหมุดในแผนที่ เพิ่มศักยภาพงานทีมและธุรกิจ
สำหรับธุรกิจที่มีหลายสาขา หรือทีมงานจัดส่งสินค้า การทำงานกับ Google Map สามารถปรับแต่งและจัดการเส้นทางได้ทันที ลดเวลาสอนพนักงานใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพการเดินทาง และช่วยวางแผนการขยายธุรกิจ
1. เพิ่มเส้นทางระหว่าง A-J
- คลิกไอคอน “เพิ่มเส้นทาง” สร้างเลเยอร์เส้นทางในแผนที่แต่ละสาขา
- เลือกจุดเริ่มต้น-สิ้นสุด สูงสุดได้ 10 จุด (แทนด้วยตัวอักษร A-J) เช่น “โกดังสินค้า→ร้านสาขา→จุดเดลิเวอรี่”
- Google Map จะประมวลผลและสร้างเส้นทางที่เหมาะสมทันที
2. ปรับแต่งสี ไอคอน และเพิ่มรูปภาพธุรกิจ
- เปลี่ยนไอคอนหมุดเป็นโลโก้ร้าน สีประจำสาขา หรือรูปภาพป้ายหน้าร้าน เพื่อให้ทีมงานและลูกค้าสังเกตเห็นง่ายขึ้น
- คลิก “เพิ่มรูปภาพ” ในแต่ละหมุด เพิ่มภาพหน้าร้าน อาหารเด็ด หรือบรรยากาศจริง สร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้าใหม่
- การปรับแต่งนี้ช่วยลดข้อผิดพลาดกรณีพนักงานใหม่รับงานหรือเดลิเวอรี่ไปผิดสาขา ลดต้นทุน-เคลมงานซ้ำ
ร้านค้าหลายแห่งที่ใช้ StoreHub POS ควบคู่กับ Google Map เลเยอร์ สามารถลดเวลาเทรนนิ่งพนักงานใหม่ได้เฉลี่ยถึง 30%* และลดอัตราความผิดพลาดการส่งของซ้ำ

การแชร์แผนที่และกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง: เชื่อมทีม-ลูกค้าให้โตเร็วอย่างปลอดภัย
เมื่อร้านค้าคุณเติบโตจาก 1 เป็น 5 สาขาขึ้นไป โจทย์ใหญ่คือ “ทุกคนต้องรู้ตำแหน่งเป๊ะ รวดเร็ว และข้อมูลไม่หลุด” Google Map ช่วยให้คุณจัดการสิทธิ์และแชร์ได้ในคลิกเดียว
1. รูปแบบการแชร์
- แชร์แบบกลุ่มหรือระบุเฉพาะอีเมล์: ส่งให้ทีมงาน พาร์ทเนอร์ หรือคนในองค์กร เช่น ผู้จัดการสาขา หรือทีมเดลิเวอรี่แต่ละโซน
- แชร์แบบลิงก์ (link): ลูกค้าหรือทีมงานที่มีลิงก์สามารถเปิดแผนที่ได้เลย ใช้ในโฆษณาหรือโปรไฟล์โซเชียลมีเดียสะดวก
2. การตั้งค่าสิทธิ์การเข้าถึง
- ระบุ “อ่านอย่างเดียว”, “สามารถแก้ไข”, หรือ “จำกัดเฉพาะผู้ได้รับเชิญ” เลือกให้เหมาะกับงานปฏิบัติการจริง
- เจ้าของร้าน/ผู้บริหารควรเก็บสิทธิ์แก้ไขแผนที่ไว้เฉพาะตัว หรือหัวหน้าทีมงาน
- ใช้ร่วมกับพนักงานเดินส่งสินค้าเดลิเวอรี่ แนะนำให้แชร์แบบเฉพาะลิงก์ อ่านอย่างเดียว
การแชร์แบบนี้ทำให้ข้อมูลครบ – ลดข้อผิดพลาดในการสื่อสาร โดยเฉพาะหากมีพนักงานใหม่หรือทีมงานชั่วคราวเพิ่มขึ้นระหว่างโปรโมชั่น
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้การปักหมุดสำหรับธุรกิจไทยแบบ Omnichannel
แนวทางต่อไปนี้จะเปลี่ยน Google Map จากเครื่องมือ “หาทางไปร้าน” ให้เป็นหัวใจขับเคลื่อนรายได้-การบริหาร-กลยุทธ์ร้านสมัยใหม่
StoreHub แนะนำวิธีใช้จริง พร้อมสถิติการเติบโตที่ธุรกิจควรเอาไปปรับใช้ทันที
1. ร้านอาหาร/คาเฟ่
- ปักหมุด-แชร์ตำแหน่งร้านใน LINE Official Account, Facebook, Instagram (Add Map) ลูกค้าแค่จิ้มก็ถึงร้านได้โดยไม่ต้องโทรถาม
- ผูกระบบ StoreHub QR Order & Pay หรือ E-commerce Store กับ Google Map หมุดหน้าร้านเพื่อรองรับออเดอร์ออนไลน์-ออฟไลน์จากลูกค้าในระยะ 5 กม. รอบร้าน ช่วยเพิ่มยอดขาย Takeaway แบบเห็นผลทันที
2. ร้านค้าปลีก-แฟรนไชส์/โลจิสติกส์
- แบ่งแผนที่เป็นเลเยอร์ “สาขาย่อย”, “ศูนย์กระจายสินค้า”, “จุดส่งเคลม/จุดเดลิเวอรี่” วิเคราะห์ช่วงเวลาการเข้าใช้บริการแต่ละจุดด้วยระบบ Reporting & Analytics ใน StoreHub ช่วยวางแผนขยายสาขาใหม่ด้วยข้อมูลจริง
- ใช้ฟังก์ชันหมุด+เส้นทาง A-J เพื่อกำหนดเส้นทางรถส่งของ ลดความผิดพลาดในการเดินทางผิดเส้นทางได้สูงสุด 40%*
3. เชื่อมโยง Omnichannel/Multi-channel
- ลูกค้าสามารถค้นหาร้านคุณจาก Google Search, ดูแผนที่ใน Facebook, หรือจองผ่านเว็บไซต์ที่ต่อยอดตำแหน่ง Location ได้แบบไม่ขาดตอน
- ใช้ข้อมูลจาก Google Map ประกอบกับ StoreHub CRM และ Loyalty Program เพื่อระบุแนวโน้มยอดซื้อซ้ำ วิเคราะห์กิจกรรมลูกค้าที่แต่ละจุดขาย
4. จดจำตำแหน่งสำคัญ (ที่จอดรถ, สโตร์, จุดนัดพบ)
- ปักหมุด “จุดจอดรถพนักงาน”, “ทางเข้าหลังร้าน”, หรือ “จุดจัดอีเวนต์ promoted by StoreHub” แล้วแชร์ให้ทีม ติดประกาศในกลุ่มไลน์ ไม่เสียเวลารอทีมใหม่ หรือหน้าฝน
ธุรกิจหลายรายใน StoreHub พบว่าเมื่อเริ่มต้นปักหมุด-แชร์แผนที่ ทำให้ยอดออเดอร์เดลิเวอรี่และ Walk-in เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 23%* ภายใน 60 วัน
บทสรุปและขั้นตอนลงมือทำทันที: ทำหมุดให้เจอ เพิ่มยอดขาย บริหารงานไว
ในโลกที่การแข่งขันสูงและลูกค้าเปลี่ยนใจเร็ว ความง่ายและรวดเร็วในการ “พบกัน” ของธุรกิจและลูกค้า คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่คุณควรลงทุน และการปักหมุดใน Google Map คือเคล็ดลับพื้นฐาน แต่ทรงพลัง ที่ SME ทุกคนต้องใช้ให้คล่อง!
- ทำตามขั้นตอนปักหมุด-ตั้งเลเยอร์-แชร์แผนที่ทันที ไม่ต้องรอ IT
- ใช้หมุดเชื่อมข้อมูลกับ StoreHub POS, QR Order & Pay และ Marketing Automation ของคุณ
- ฝึกทีมให้ใช้แผนที่แบบ shared link ลดเวลามือใหม่ได้จริง
- วางแผนต่อยอดความสำเร็จด้วยการเชื่อมแผนที่กับ Omnichannel Strategy ยุคใหม่
- วิเคราะห์ข้อมูลหมุด + พฤติกรรมลูกค้าผ่าน StoreHub Reporting & Analytics เพื่อขยายสาขา เพิ่มยอดขายอย่างมืออาชีพ
อย่าปล่อยให้แค่หมุดเล็กๆ ทำให้คุณเสียลูกค้ารายใหญ่ เริ่มปักหมุดธุรกิจของคุณวันนี้ แล้วเชื่อมต่อกับโซลูชันการขายสมัยใหม่ของ StoreHub เพื่อให้ SME ไทยเติบโตไว แข่งขันได้ และครองใจลูกค้าทุกช่องทาง!
ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากร้านเดียว หรือวางเป้าขยายเครือข่ายแฟรนไชส์ StoreHub พร้อมช่วยคุณตั้งแต่ขั้นตอนปักหมุด ถึงปลายทางของการเป็นธุรกิจ Omni-Channel 100% ติดต่อรับคำปรึกษาและทดลองใช้ StoreHub ฟรี พร้อมคู่มือการทำธุรกิจเติบโตฉบับเจ้าของร้านตัวจริง!
*ตัวเลขเฉลี่ยจากการสำรวจผู้ใช้งาน StoreHub 2025, RMUTT Google Map Guide 2024
