
เปิดร้านเสื้อผ้า 2025: 7 เคล็ดลับทรงพลัง สร้างกำไรไว
ตลาดโมเดิร์นเทรดไทยกำลังเร่งเครื่องอีกครั้ง—รายงาน Krungsri Research คาดว่าอุตสาหกรรมนี้จะขยายตัวเฉลี่ย 5.0-5.5 %/ปี ระหว่าง 2024-2026 จากกำลังซื้อและจำนวนนักท่องเที่ยวที่กลับมาหนุนหลัง ขณะเดียวกัน “ฝั่งจอ” ก็ไม่แพ้กัน เมื่อ nationthailand รายงานมูลค่าอีคอมเมิร์ซไทยว่าพุ่ง 1.1 ล้านล้านบาท ใน 2024 และมีแนวโน้มแตะ 1.6 ล้านล้านบาท ปี 2027
แต่สิ่งที่ทำให้ปีนี้พิเศษคือ พฤติกรรมลูกค้าที่เชื่อมสองโลก—ผลสำรวจ PwC Voice of the Consumer 2024 พบว่า 46 % ของผู้บริโภคเอเชีย-แปซิฟิกยัง “เดินเข้าร้าน” เป็นประจำ ขณะที่ 45 % ซื้อผ่านสมาร์ทโฟน และเกือบทุกคนสลับใช้หลายช่องทางก่อนตัดสินใจ ร้านที่ผสานหน้าร้านกับออนไลน์อย่างไร้รอยต่อจึงเป็นผู้ชนะยุคนี้ และระบบ POS คลาวด์แบบ StoreHub คือกุญแจสำคัญที่คุณจะเห็นตลอดคู่มือนี้
เริ่มต้นอย่างไร: กำหนดวิสัยทัศน์ & งบลงทุน
เริ่มจากสองคำถามสำคัญ “ร้านของคุณสะท้อนตัวตนอะไร?” และ “พร้อมลงทุนเท่าไร?” ถ้าฝันเปิดมัลติแบรนด์สตรีทแฟชั่นที่อัปคอลเลกชันทุกเดือน เงินหมุนสต็อกย่อมใหญ่กว่าร้านมินิมอลคลาสสิกที่มีไลน์สินค้าคงที่ อย่างไรก็ดี สูตรแบ่งงบ 60 : 25 : 15 ช่วยคุมต้นทุนได้ทุกโมเดล—สินค้า : ตกแต่ง : ดิจิทัล (รวม POS) ตามลำดับ
หมวดค่าใช้จ่าย | สัดส่วนแนะนำ | งบตัวอย่าง (บาท) | ครอบคลุม |
---|---|---|---|
สินค้าสต็อกล็อตแรก | 60 % | 60 000 | เสื้อ/แอ็กเซสซอรี ≈ 100–150 SKU |
ตกแต่ง & อุปกรณ์ | 25 % | 25 000 | ชั้นแขวน ไฟ กระจก ถุงผ้า |
ดิจิทัล & POS | 15 % | 15 000 | StoreHub POS + เครื่องสแกน + QR Pay |
กันงบระบบตั้งแต่แรกช่วยเคลียร์กำไรจริงรายวัน วัดได้ทันทีว่าโปรโมชันไหนเวิร์กหรือเจ๊ง ไม่ต้องลุ้นปลายเดือน—ลิงก์อ่านต่อ ต้นทุนเปิดร้านเสื้อผ้า
สูตรง่ายคำนวณจุดคุ้มทุน (BEP)
BEP (เดือน) = ต้นทุนคงที่รวม ÷ กำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อเดือน
ต้นทุนคงที่คือค่าเช่า + เงินเดือน + ระบบ POS ฯลฯ ส่วนกำไรขั้นต้นเฉลี่ยได้จาก (ราคาขาย − ต้นทุนต่อชิ้น) × จำนวนขายต่อเดือน
ลองใส่ตัวเลขดู — ถ้า BEP เกิน 18 เดือน ให้ทบทวนขนาดร้านหรือต้นทุนสต็อกอีกครั้ง
สำรวจตลาด & เลือกทำเลทอง
กลุ่มเป้าหมายหลักปี 2025 ได้แก่ Gen Y-Z วัย 25–35 ปี ที่สลับซื้อในหลายช่องทาง 73 % ค้นหาข้อมูลบนมือถือก่อนเดินเข้าร้าน ตัวเลขบอกเราชัดเจนว่า Omnichannel คือเกมบังคับ — เลือกทำเลจึงต้องเผื่อเงื่อนไขสตรีท + ออนไลน์ไปพร้อมกัน
ประเภททำเล | ค่าเช่าเฉลี่ย/เดือน | ข้อดี | ข้อควรระวัง |
---|---|---|---|
แฟชั่นสตรีท (สยาม/อารีย์) | 25–45 k | ไวรัลง่าย แบรนด์ติดตา | เช่าแพง คู่แข่งดุ |
คอมมูนิตี้มอลล์ | 18–30 k | ทราฟฟิกประจำ จอดรถสะดวก | สัญญา 1–3 ปี รีโนเวตตามห้าง |
Pop-up ห้าง | 10 % ของยอดขาย | เสี่ยงต่ำ ทดสอบตลาดเร็ว | พื้นที่จำกัด เปลี่ยนจุดบ่อย |
อย่าลืมรักษา Rent-to-Sales Ratio ≤ 15 % เพื่อให้ร้านเหลือกำไรไปทำการตลาด อ่านเคล็ดลับทำเลเพิ่มในบทความ 8 ทำเลที่ควรเลือก ก่อนเปิดร้านเริ่มธุรกิจให้ปัง

เช็กลิสต์เอกสาร & ภาษีก่อนเปิดร้าน
เอกสารครบเท่ากับความน่าเชื่อถือครบ—ช่วยเลี่ยงค่าปรับและเปิดประตูสู่เครดิตเทอมซัพพลายเออร์ในอนาคต
เอกสาร/ใบอนุญาต | ยื่นเมื่อไร/ที่ไหน | ค่าธรรมเนียม (บาท) | อ้างอิง |
---|---|---|---|
ทะเบียนพาณิชย์ (พ.ณ.) | ภายใน 30 วัน ที่สำนักงานเขต/อบต. | 50–200 | กรมพัฒนาธุรกิจการค้า |
เลข ภพ.20 (VAT) | เมื่อยอดขายเกิน 1.8 ลบ./ปี | ฟรี (ยื่นออนไลน์) | กรมสรรพากร |
ภาษีป้าย 2568 | ยื่น ม.ค.–มี.ค. ของทุกปี | 3 % ของค่าป้าย | รายละเอียดภาษีป้าย |
ไทม์ไลน์เตรียมเอกสาร (ตัวอย่าง)
เดือน | งานที่ต้องทำ | ปล.* |
---|---|---|
M-2 | จองชื่อ-ยื่น พ.ณ. | ใช้ 1-3 วัน |
M-1 | ขอ ภพ.20 ออนไลน์ | ได้เลข VAT ภายใน 5 วัน |
M | ขออนุญาตติดตั้งป้าย & ชำระภาษีล่วงหน้า | ใช้ใบเสนอราคาช่างป้ายแนบ |
* M = เดือนเปิดร้านจริง
ถ้าพลาดเส้นตาย ภาษีป้าย อาจโดนปรับ 10 000 บาท และป้ายถูกสั่งปลด — อย่าให้จุดเล็ก ๆ ทำร้านสะดุดตั้งแต่วันแรก
บริหารสินค้าคงคลังอย่างมือโปรตั้งแต่วันแรก
แม้ “สไตล์” จะขายหน้าร้าน แต่ “ตัวเลขสต็อก” คือหลังบ้านที่กำไรซ่อนอยู่ — รายงานปี 2025 ชี้ว่าเมื่อร้านเสื้อผ้ายังใช้การจดมือหรือสแกนบาร์โค้ดอย่างเดียว ความแม่นยำของสต็อกอยู่เพียง 65-70 % ขณะที่ผู้ค้าซึ่งยกระดับเป็น RFID หรือซอฟต์แวร์อัตโนมัติจะดันตัวเลขนี้ขึ้นได้ถึง 97-99 % พร้อมลดรอบเช็กสต็อกเร็วขึ้น 25 เท่า ความต่าง 30 % นี้แปลตรง ๆ ว่า “ทุนจม” และ “ยอดขายที่หาย” ซึ่งมือใหม่หลายคนไม่เคยเห็นในงบกำไรขาดทุน
StoreHub Inventory Management แก้ปัญหานี้ให้จบตั้งแต่วันแรก: แค่ยิงบาร์โค้ด ระบบจะตัดสต็อก-เติมสต็อกอัตโนมัติ พร้อมแจ้งเตือนจุดสั่งซื้อใหม่ (Re-order Point) และคำนวณสต็อก Safety Stock ตามยอดขายจริงทุกช่องทาง คุณจึงกล้าอัปไซซ์ SKU ตามฤดูกาลได้โดยไม่ต้องกลัว “ของขาดชั้น” หรือ “ของค้างโกดัง”
KPI สต็อกสำคัญ | สูตร (ย่อ) | เป้าหมายแฟชั่น SME |
---|---|---|
Accuracy | สินค้าที่นับตรง ÷ สินค้าทั้งหมด | ≥ 95 % |
Stock Turn | ยอดขายปี ÷ มูลค่าสต็อกเฉลี่ย | ≥ 4 ครั้ง/ปี |
Days of Cover | (สต็อก ÷ ยอดขายเฉลี่ยวัน) | 30-45 วัน |
Dead Stock % | สินค้าขายไม่เกิน 90 วัน ÷ สต็อก | ≤ 8 % |
ทิปไว: จัด ABC Analysis ทุกไตรมาส — สินค้ากลุ่ม A 20 % สร้างยอด 80 % ของรายได้ ควรตั้ง Re-order Point ต่ำสุดและรีวิวราคาบ่อยที่สุด เพื่อให้เงินทุนหมุนเร็วไม่ติดล็อก

ตั้งหน้าร้านให้พร้อมด้วยระบบ POS รุ่นใหม่
ร้านเสื้อผ้าเล็ก ๆ จำนวนไม่น้อยยังพึ่ง “เครื่องคิดเงินแบบเดิมบวกไฟล์ Excel” เพื่อรับยอดและคุมสต็อก — วิธีที่ดูประหยัดแต่ซ่อน “ต้นทุนเวลา” และ “ช่องโหว่ข้อมูล” ไว้เพียบ เช่น การต้องกรอกยอดซ้ำสองรอบหรือรอรวมยอดปลายวันถึงจะรู้ว่ากำไรเหลือเท่าไร บทความ Traditional Cashier vs. POS System สรุปชัดว่าร้านที่ยึดติดเครื่องเก่ายังเสียเวลาเช็กสต็อกเฉลี่ยวันละ 2–3 ชั่วโมง แถมตัวเลขคงคลังคลาดเคลื่อนสูงกว่าร้านที่ใช้ POS คลาวด์ถึง 30 % ส่วนใครที่ฝากอนาคตบนตาราง Excel ล้วนรู้ดี—ไฟล์เสียหรือสูตรพังครั้งเดียวอาจทำข้อมูลย้อนหลังหายหมด (อ่านเพิ่มได้ที่ วิธีจัดการสต็อกโดยไม่ต้องใช้ Excel)
เมื่อเปลี่ยนมาใช้ StoreHub POS คุณจะเห็นยอดขายเรียลไทม์ ทุกสาขา ทุกช่องทาง ในแดชบอร์ดเดียว ไม่ต้อง “รอปิดกะ” ถึงจะรู้ว่าขายดี–ขายแย่ จุดเด่นอีกข้อคือระบบจะซิงก์สต็อกทันทีที่มีการสแกนบาร์โค้ดหรือสั่งซื้อผ่านไลฟ์สด ลูกค้าออนไลน์จึงไม่เจอปัญหา “สั่งไปแล้วของหมด” ส่วนลูกค้าหน้าร้านก็ไม่เสียโอกาสเพราะพนักงานเห็นคงเหลือระหว่างแนะนำสินค้าได้ทันที
เครื่องคิดเงินเดิม<br>(Cash Register) | ไฟล์ Excel + สแกนเนอร์ | Cloud POS (StoreHub) | |
---|---|---|---|
ตัดสต็อกอัตโนมัติทุกช่องทาง | ✗ | ✗ (ต้องอัปโหลดไฟล์) | ✓ |
รายงานหลายสาขาเรียลไทม์ | ✗ | ✗ | ✓ |
ลดเวลาปิดรอบสิ้นวัน | 2–3 ชม. | ≥ 1 ชม. | < 15 นาที |
อัปเกรด/เพิ่มฟีเจอร์ | ซื้อเครื่องใหม่ | ปรับสูตรเอง | กดอัปเดตในคลาวด์ |
การดูยอดนอกเวลา | ต้องเข้าร้าน | ต่อ VPN หรือส่งไฟล์ | มือถือ/แท็บเล็ตได้ทันที |
ความเสี่ยงข้อมูลสูญหาย | ต่ำ (เครื่องแยก) | สูง (ไฟล์เสียได้) | ต่ำ (แบ็กอัปบนคลาวด์) |
สรุปสั้น ๆ ระบบเก่าอาจจ่ายถูกวันแรกแต่กินเวลาคุณทุกวัน — ถ้าประหยัดเวลาได้วันละ 2 ชั่วโมง เท่ากับคืนต้นทุนค่าระบบภายในไม่กี่เดือน แถมคุณยังมีกำลังไปโฟกัสงานสำคัญกว่า เช่น ครีเอตคอลเลกชันใหม่หรือถ่ายคอนเทนต์โซเชียลให้ปัง
กรณีศึกษา UNISEE × StoreHub ก็พิสูจน์เรื่องนี้: หลังติดตั้ง StoreHub เพียง 3 เดือน ยอดขายต่อบิล ของสาขาสยามพุ่ง +18 % เพราะพนักงานเห็นคงเหลือแบบเรียลไทม์และเสนอสินค้า Mix-&-Match ได้แม่นขึ้น พร้อมกันนั้นเจ้าของร้านยังเข้าถึงกราฟ Reporting & Analytics ผ่านมือถือ ดูได้ว่าเวลาพีคคือ 19:00–21:00 น. จึงดันโปร “Happy Hour” เพิ่มยอดอีกดอกแบบไม่ต้องเข้าร้านเอง
กลยุทธ์การตลาดเปิดตัว & ดึงลูกค้าซ้ำ
เปิดร้านให้คนแห่ถ่ายรูปว่าเจ๋งแล้ว — แต่ทำยังไงให้เขากลับมาซื้อซ้ำคือเกมระยะยาว วางโรดแม็ป 90 วันแรกชัด ๆ แล้วใช้ Membership + Loyalty บน StoreHub ช่วยขยายอายุลูกค้า
ไทม์ไลน์ 0-90 วัน | กิจกรรมหลัก | เป้าหมาย KPI | ทูลที่แนะนำ |
---|---|---|---|
Pre-Launch (M-1) | เปิด TikTok/IG, Teaser คอลเลกชัน | Follower ≥ 1 k | Reels, Live Countdown |
Soft Opening (สัปดาห์ 1-2) | ส่วนลดเพื่อนบ้าน 15 % | Footfall ≥ 50 คน/วัน | POS Coupon |
Grand Opening (สัปดาห์ 3) | ไลฟ์สด Unbox + ส่วนลดเฉพาะ Live | ยอดขายวันเปิด ≥ 3× วันปกติ | ระบบสต็อก Real-Time |
Month 2-3 | เปิด StoreHub Membership + แคมเปญ Loyalty Earn & Burn | อัตราซื้อซ้ำ ≥ 25 % | SMS / LINE Broadcast |
สถิติระดับโลกตอกย้ำแผนนี้ชัด—83 % ของผู้บริโภคใช้จ่ายกับแบรนด์ที่มีโปรแกรมสมาชิก และร้านที่ตั้ง Loyalty ดี ๆ จะเห็นรายได้โต 15-25 % ต่อปี จุดแข็งของ StoreHub คือระบบจะผูกแต้มอัตโนมัติกับบิลขาย ไม่ต้องออกการ์ดหรือคูปองกระดาษให้ยุ่งยาก พร้อมแดชบอร์ดแยก “ลูกค้าประจำ” และ “ลูกค้าขาจร” เพื่อยิงโปรเฉพาะกลุ่มได้ภายในไม่กี่คลิก
งบน้อยแต่เวิร์ก: ลองหยิบไอเดียเพิ่มลูกค้าจากบทความ การตลาดร้านเสื้อผ้าฉบับงบน้อยแต่เวิร์ก แล้วผูกเข้ากับ Loyalty — คุณอาจใช้ของขวัญชิ้นเล็ก ๆ ราคาไม่ถึง 15 บาทแต่สร้างมูลค่า “ว้าว” ได้มากกว่าส่วนลด 10 % เสียอีก

วัดผล – ปรับแผน – ขยายสาขาให้โตไว
การ “ดูกระแสเงินสด” อย่างเดียวไม่พออีกต่อไป—เจ้าของร้านแฟชั่นจำเป็นต้องติดตาม KPI เชิงลึก เพื่อรู้ว่ากำลัง “เผาเงิน” หรือ “ปั้นกำไร” อยู่กันแน่ รายงาน Theory House ปี 2025 ชี้ว่าร้านรีเทลที่ตั้งตัวชี้วัดชัดเจนและทบทวนทุกเดือน มียอดขายโตเฉลี่ย ≥ 15 % ต่อปี เช่นการวัด Average Transaction Value, Inventory Turnover และ Sales per Square Foot Theory House ขณะที่งานวิจัย Harvard Business Review ที่สรุปในบล็อก Taqtics ยืนยันว่า การใช้ KPI สม่ำเสมอสามารถดันประสิทธิภาพร้านได้สูงสุด 30 % Taqtics
StoreHub จึงออกแบบแดชบอร์ด Reporting & Analytics ให้ดึงตัวเลขแบบเรียลไทม์ทุกสาขา—เจ้าของร้านเปิดมือถือก็เห็น Conversion Rate วันนี้เทียบเมื่อวาน หรือรู้ทันทีว่าสาขาไหน Days of Cover สูงเกิน 45 วันแล้วควรเร่งโปรโมชันระบายสต็อก ในทางกลับกัน หาก Repeat Purchase Rate ต่ำกว่า 20 % ระบบยังช่วยระบุ “ใครหายไป” เพื่อส่งคูปองเรียกลูกค้ากลับมา ฟีเจอร์นี้สอดรับเทรนด์ที่ Firework ระบุว่าค่า RPR ในรีเทลที่ดีควรไม่ต่ำกว่า 25 % ถ้าอยากให้แบรนด์ยืนระยะยาว Firework
KPI หลัก | สูตรย่อ | เกณฑ์เป้าหมายแฟชั่น SME |
---|---|---|
Sales per sq.ft. | ยอดขาย ÷ พื้นที่ (ตร.ฟ.) | ≥ 5,000 บ./เดือน |
Conversion Rate | จำนวนบิล ÷ จำนวนคนเข้า | ≥ 25 % |
Average Transaction Value (ATV) | ยอดขาย ÷ จำนวนบิล | ≥ 650 บ. |
Inventory Turnover | ยอดต้นทุนสินค้าขาย ÷ มูลค่าสต็อกเฉลี่ย | ≥ 4×/ปี |
Repeat Purchase Rate (RPR) | ผู้ซื้อ ≥ 2 ครั้ง ÷ ลูกค้ารวม | ≥ 25 % |
เคล็ดไม่ลับ: กำหนด “สีไฟจราจร” ให้แดชบอร์ด—เขียว = เกินเป้า, เหลือง = ใกล้หลุด, แดง = ต่ำกว่าเกณฑ์—พนักงานจะเห็นจุดที่ต้องรีบแก้โดยไม่ต้องรอผู้จัดการสรุปประชุมปลายเดือน
ขยายสาขาเร็ว…แต่ต้อง “คุมข้อมูล” ให้ทัน
เมื่อ KPI หลักสวยงามติดต่อกัน 3–4 ไตรมาส ร้านส่วนใหญ่เริ่มมองหาทำเลใหม่ ทว่าความท้าทายอันดับ 1 ของผู้ประกอบการไทยคือ “การกระจายสต็อกและสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล” บทความ ConnectPOS แนะนำว่าระบบ POS ที่ดีต้องกำหนดสิทธิ์เข้าถึงตามสาขาและบทบาทได้ เพื่อให้ผู้จัดการดูยอดสาขาตัวเองโดยไม่รบกวนข้อมูลภาพรวมบริษัท ConnectPOS StoreHub ใช้หลักเดียวกัน—คุณสร้างสาขาที่ 2, 3, 4 เพิ่มบนคลาวด์แล้วกำหนดได้ละเอียดถึงระดับ “ผู้ช่วยผู้จัดการ” ว่าเห็นเฉพาะรายงานรายวัน ไม่ใช่รายงานกำไรขั้นต้น
นอกจากนั้น การรีเพลย์กลยุทธ์เปิดร้านจากสาขาแรกยังง่ายขึ้นเมื่อมี Template สินค้า-ราคาในระบบอยู่แล้ว เพียงคัดลอกแค็ตตาล็อกและตั้ง Re-order Point ให้แต่ละทำเลตามทราฟฟิกจริง สถิติในภูมิภาคจาก ShipBob 2025 ระบุว่าร้านที่ใช้คลังข้อมูลสากลเดียวกันระหว่างสาขา สามารถลดต้นทุนสต็อก “ดับเบิลโอเวอร์” ลงได้ถึง 22 % ShipBob
ก่อนเซ็นสัญญาเช่าที่ใหม่ ลองเช็ก “Rent-to-Sales Ratio” กับ KPI หลักผ่าน StoreHub Dashboard ให้แน่ใจว่าสาขาแรกทำกำไรสม่ำเสมอ—แล้วค่อยก๊อบปี้โมเดลไปลงสาขาต่อไป อ่านแนวทางเลือกระบบให้เหมาะกับระยะขยายในบทความ เลือก POS ที่ใช่ เจ้าของร้านเสื้อก็รวยได้
บทสรุป
การ เปิดร้านเสื้อผ้า ให้สำเร็จใน ปี 2025–2026 ไม่ได้อาศัยแค่แรงบันดาลใจ แต่ต้องเริ่มจากการวางวิสัยทัศน์ คุมงบให้สมดุล 60 : 25 : 15 (สินค้า : ตกแต่ง : ดิจิทัล) และเลือกทำเลที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่สตรีทสุดฮิตย่านสยาม-อารีย์ไปจนถึงคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีกลุ่มลูกค้าออฟฟิศประจำ ถัดมาคือการเคลียร์เอกสาร—ทะเบียนพาณิชย์, เลข ภพ.20 และภาษีป้าย—เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าโดยไร้ภาระค่าปรับหรืออุปสรรคทางกฎหมาย
หัวใจกำไรจริงซ่อนอยู่ใน การจัดการสต็อกและข้อมูลยอดขาย StoreHub Inventory Management ตัดสต็อก-เติมสต็อกอัตโนมัติ, แจ้งจุดสั่งซื้อใหม่ และรายงาน KPI สต็อกครบ ขณะที่ Cloud POS เชื่อมยอดทุกช่องทาง ลดเวลาปิดรอบสิ้นวันเหลือไม่ถึง 15 นาที พร้อมแดชบอร์ด Reporting & Analytics ที่เห็นยอดขายและกำไรสดทุกสาขาผ่านมือถือ เมื่อจับคู่กับ StoreHub Membership & Loyalty คุณจะสร้างแคมเปญสะสมแต้มเรียกลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้ในไม่กี่คลิก
เมื่อ KPI หลัก—เช่น Sales per Sq.Ft., Inventory Turnover และ Repeat Purchase Rate—เข้าที่ต่อเนื่อง การขยายสาขาใหม่ก็ทำได้ไวเพียงคัดลอกแค็ตตาล็อกและสิทธิ์ผู้ใช้บนคลาวด์ ทั้งหมดนี้สรุปได้สั้น ๆ ว่า หากคุณต้องการร้านเสื้อผ้าที่ “กำไรไว โตยาว และคุมได้จากทุกที่” ระบบ StoreHub POS คือคู่หูที่ช่วยย่นเวลาเรียนรู้และลดความเสี่ยงของมือใหม่อย่างคุณได้ดีที่สุด—เริ่มสำรวจฟีเจอร์ได้ที่หน้า Inventory Management หรือขอเดโมกับทีมผู้เชี่ยวชาญฟรีวันนี้

คำถามที่พบบ่อย
จำเป็นต้องมีเงินเท่าไรถึงจะเปิดร้านเสื้อผ้าได้คุ้ม?
งบเริ่มต้น ≥ 100 000 บาท โดยแบ่ง สินค้า 60 %, ตกแต่ง 25 %, ดิจิทัล+POS 15 % เพื่อให้มีเงินหมุนสต็อกและระบบหลังบ้านครบตั้งแต่วันแรก
ต้องขอใบอนุญาตหรือเอกสารอะไรบ้างก่อนเปิดร้าน?
อย่างน้อยต้องมี ทะเบียนพาณิชย์, เลข ภพ.20 (ถ้ายอดเกิน 1.8 ลบ./ปี), และภาษีป้าย ดูรายละเอียดภาษีป้ายได้ที่บทความ ป้ายแบบไหนที่ต้องเสียภาษีในปี 2568?
ร้านเล็กจำเป็นต้องใช้ระบบ POS หรือไม่?
จำเป็นถ้าอยากรู้กำไร-ขาดทุนเรียลไทม์และประหยัดเวลาปิดรอบ อ่านบทความ Traditional Cashier vs. POS System เพื่อดูผลลัพธ์จริง
ถ้าติดตั้ง StoreHub ต้องซื้อฮาร์ดแวร์อะไรเพิ่มบ้าง?
มีเพียงแท็บเล็ต เครื่องสแกนบาร์โค้ด และลิ้นชักเก็บเงิน ระบบอัปเดตบนคลาวด์ตลอด จึงไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่เมื่อมีฟีเจอร์เพิ่ม
จะดึงลูกค้าออนไลน์ให้แวะมาช็อปหน้าร้านได้อย่างไร?
ใช้กลยุทธ์ Omnichannel: Live ขาย, รหัสส่วนลดรับที่ร้าน, แต้มสะสมคูณสอง — ดูไอเดียงบประหยัดใน การตลาดร้านเสื้อผ้างบน้อยแต่เวิร์ก
เมื่อไรควรขยายสาขาเพิ่ม?
เมื่อ Sales per Sq.Ft. ≥ 5 000 บ./เดือน และ Repeat Purchase Rate ≥ 25 % ติดต่อกัน ≥ 6 เดือน คุณดูตัวเลขสด ๆ ได้ใน Reporting & Analytics
บทความอื่นๆ ที่แนะนำ
- สร้างแบรนด์เสื้อผ้าให้โตไว กำไรชัด
- เจาะลูกค้าถูกเจน ยอดขาย SME โต
- ตั้งราคาสินค้าให้ขายดีและกำไร
- อยากขายเสื้อผ้า ต้องรับจากที่ไหน? (อัพเดต 2025)
- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD)
- Statista
เริ่มต้นง่าย ๆ — กดขอเดโม StoreHub POS วันนี้ แล้วสัมผัสความต่างของการเห็นกำไรจริงตั้งแต่วันแรก!