
ป้ายแบบไหนที่ต้องเสียภาษีในปี 2568?
สำหรับเจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศไทย “ภาษีป้าย 2568” กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนที่ทุกคนต้องใส่ใจ ปีนี้ กรุงเทพมหานคร ได้อัปเดตข้อกำหนดใหม่เกี่ยวกับป้ายที่ต้องเสียภาษี ป้ายที่ได้รับการยกเว้น รวมถึงวิธีการยื่นแบบและชำระเงินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากคุณมีป้ายแสดงชื่อแบรนด์ โลโก้ ร้านค้า หรือโฆษณาต่าง ๆ ไม่ว่าจะติดตั้งไว้หน้าร้าน หรือบนรถ ป้ายของคุณอาจต้องเสียภาษี รู้ไว้ก่อน ถูกปรับภายหลังไม่คุ้มแน่นอน
บทความนี้จะอธิบายทุกแง่มุมของการเสียภาษีป้าย ปี 2568 พร้อมตัวอย่างการคำนวณภาษี เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาภาษีโดยไม่พลาดสิ่งจำเป็น
Topic
- สาระสำคัญเกี่ยวกับภาษีป้าย 2568
- ป้ายประเภทใดบ้างที่ต้องเสียภาษี
- ป้ายที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี
- อัตราภาษีป้าย 2568
- วิธีคำนวณภาษีป้าย
- การยื่นแบบและชำระภาษีป้าย
- บทลงโทษและค่าปรับกรณีไม่ปฏิบัติตาม
- สรุปส่งท้าย
สาระสำคัญเกี่ยวกับภาษีป้าย 2568
จากการประกาศของ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ผู้ประกอบการหรือเจ้าของป้ายต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย (แบบ ภ.ป.1) และชำระภาษีภายใน เดือนมีนาคม 2568 หากป้ายถูกติดตั้งภายหลังเดือนมีนาคม หรือมีการเปลี่ยนแปลงป้าย ต้องยื่นภายใน 15 วัน นับจากวันที่ติดตั้งหรือมีการเปลี่ยนแปลง
ผู้เสียภาษีสามารถยื่นแบบที่สำนักงานเขตที่ป้ายนั้นถูกติดตั้ง หรือแสดงอยู่ ส่วนกรณีป้ายติดบนยานพาหนะ เช่น รถ ให้ยื่นแบบที่สำนักงานเขตที่ได้รับจดทะเบียนยานพาหนะ
ป้ายประเภทใดบ้างที่ต้องเสียภาษี
ป้ายที่ต้องเสียภาษีตาม พ.ร.บ.ภาษีป้าย คือป้ายที่:
- มีการแสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือ เครื่องหมายเกี่ยวกับกิจการค้า หรือกิจกรรมที่มีรายได้
- มีข้อความ ภาพ หรือสัญลักษณ์ ไม่ว่าจะเขียน แกะสลัก พิมพ์ หรือปรากฏด้วยวิธีใดก็ตาม
- ติดตั้งไว้กับสิ่งของ อาคาร ยานพาหนะ หรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ที่สามารถมองเห็น
ไม่ว่าป้ายจะเป็นขาวดำหรือมีสี ป้ายที่ระบุข้อความเชิญชวน ลูกค้าให้รู้จักสินค้า หรือแสดงตัวตนบริษัท — ล้วนจัดเป็น ป้ายเพื่อการค้า ที่เข้าข่ายต้องเสียภาษี
อ้างอิงจาก: bangkokbiznews.com – ภาษีป้าย 2568
ป้ายที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี
1. ป้ายที่ยกเว้นตามกฎหมาย
- ป้ายในโรงมหรสพเพื่อโฆษณามหรสพ
- ป้ายบนสินค้า หรือหุ้มบรรจุสินค้า
- ป้ายในงานจัดกิจกรรมเป็นครั้งคราว
- ป้ายที่ติดอยู่กับคนหรือสัตว์
- ป้ายภายในอาคารที่ประกอบกิจการค้า (ไม่เกิน 3 ตร.ม.)
- ป้ายของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรที่ส่งรายได้ให้รัฐ
- ป้ายของโรงเรียนเอกชน, วัด, มูลนิธิ, สมาคม หรือกลุ่มเพื่อการกุศล
2. ป้ายที่ยกเว้นตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2535)
- ป้ายที่ติดบนรถยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ รถแทรกเตอร์ เป็นต้น
- ป้ายที่ติดบนล้อเลื่อน
- ป้ายบนยานพาหนะ ที่มีพื้นที่ไม่เกิน 500 ตารางเซนติเมตร
อัตราภาษีป้าย 2568
อัตราภาษีป้ายปี 2568 แบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้:
- ประเภทที่ 1: ป้ายที่มีอักษรไทยล้วน — 5 บาท ต่อทุก 500 ตร.ซม.
- ประเภทที่ 2: ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับอักษรต่างประเทศ ภาพ หรือเครื่องหมาย — 26 บาท ต่อทุก 500 ตร.ซม.
- ประเภทที่ 3: ป้ายที่ไม่มีอักษรไทย หรือมีไทยต่ำกว่าภาษาต่างประเทศ — 50 บาท ต่อทุก 500 ตร.ซม.
หมายเหตุ: ทุกป้ายต้องเสียภาษีขั้นต่ำ 200 บาท/ปี ไม่ว่าจะคิดจากพื้นที่หรือไม่ก็ตาม

วิธีคำนวณภาษีป้าย
สูตรการคำนวณภาษีป้าย
ค่าภาษีป้าย = (พื้นที่ป้าย ÷ 500) × อัตราภาษีเฉพาะประเภท
พื้นที่ป้าย = ความกว้าง × ความยาว (หน่วยเป็นเซนติเมตร)
หน่วยภาษี = ทุก ๆ 500 ตารางเซนติเมตร
อ้างอิงจาก: itax.in.th – วิธีคำนวณภาษีป้าย
ตัวอย่างการคำนวณ
ตัวอย่าง 1: ป้ายอักษรไทยล้วน ขนาด 300 × 450 ซม. → พื้นที่ = 135,000 ตร.ซม.
- จำนวนหน่วย = 135,000 ÷ 500 = 270
- ภาษี = 270 × 5 = 1,350 บาท
ตัวอย่าง 2: ป้ายไทยปนภาษาต่างประเทศ ขนาดเดียวกัน
- ภาษี = 270 × 26 = 7,020 บาท
ตัวอย่าง 3: ไม่มีอักษรไทยเลย
- ภาษี = 270 × 50 = 13,500 บาท
การยื่นแบบและชำระภาษีป้าย
กำหนดเวลา
- รายเก่า: ต้องยื่นภายในเดือนมีนาคม 2568
- รายใหม่ หรือ ติดตั้งใหม่: ยื่นภายใน 15 วันหลังติดตั้ง
เอกสารประกอบการยื่นแบบ
- บัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารแสดงการค้า เช่นทะเบียนพาณิชย์
- รูปถ่ายป้ายพร้อมขนาด (กว้าง × ยาว)
- ใบเสร็จภาษีป้ายครั้งก่อน (ถ้ามี)
- หนังสือมอบอำนาจ (หากมีตัวแทนยื่น)
บทลงโทษและค่าปรับกรณีไม่ปฏิบัติตาม
ค่าปรับทางปกครอง
- ยื่นแบบช้าเกินกำหนด: ปรับเพิ่ม 10% จากภาษี
- ยื่นไม่ถูกต้อง intentionally: ปรับเพิ่ม 10% จากส่วนที่ขาด
- ไม่จ่ายภายใน 15 วัน: คิดดอกเบี้ย 2%/เดือน
โทษทางอาญา
- จงใจไม่ยื่นแบบ: ปรับ 5,000 – 50,000 บาท
- ไม่ยื่นแบบ: ปรับ 5,000 – 50,000 บาท
- ไม่แจ้งโอนป้าย: ปรับตามกฎหมาย
- ไม่ไปตามหมายเรียกเจ้าหน้าที่: 1,000 – 10,000 บาท
- ขัดขวางการตรวจสอบ: 1,000 – 20,000 บาท
สรุปส่งท้าย
ใครที่เป็นเจ้าของป้ายธุรกิจในปี 2568 ไม่ควรมองข้ามเรื่อง ภาษีป้าย เพราะทั้ง ค่าปรับ และ บทลงโทษ รุนแรงไม่น้อย หากเพิกเฉยต่อการยื่นภาษีป้าย การคำนวณไม่ยาก แค่รู้ขนาดป้าย และประเภทของอักษร คุณก็สามารถประมาณภาษีได้ล่วงหน้า และยื่นแบบได้อย่างมั่นใจ
หากคุณยังไม่แน่ใจว่าป้ายของคุณเข้าข่ายหรือไม่ หรือมีคำถามเรื่องเอกสาร สามารถติดต่อสำนักงานเขตที่เกี่ยวข้อง หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อความมั่นใจ และหลีกเลี่ยงการเสียภาษีย้อนหลัง
อย่ารอจนถึง deadline — ยื่นเร็ว คำนวณถูก ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าต่ออย่างมั่นคง
